วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สุขภาพ: มาดื่มชากันเถอะ ภาค 1 ชาดำ ชาเขียว

ช่วงนี้ผมทำงานอยู่ที่บ้าน พอว่างก็มักจะชงกาแฟดื่ม กลายเป็นว่าวันนึงได้ดื่มกาแฟมากกว่าหนึ่งถ้วย เสร็จแล้วตอนกลางคืนก็เลยนอนไม่ค่อยจะหลับ แต่ก็กลัวว่าดื่มกาแฟมากไปแล้วจะเสียสุขภาพ ผมก็เลยมาหาเครื่องดื่มอื่นดื่มแทนกาแฟบ้าง จะได้เป็นการลดการดื่มกาแฟลง

คิดได้อย่างนั้นแล้ว ผมก็มองไปรอบๆ ครัว สายตาก็พลันไปเจอเข้ากับชาหลากหลายชนิด ทั้งชาจีน ชาญี่ปุ่น ชาฝรั่ง แม้กระทั่งชาเกาหลี!!!  โอ้โฮแฮะ บ้านผมสะสมชาไว้เยอะโดยที่ผมไม่เคยสังเกตุเลยแม้แต่น้อย  และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมเริ่มดื่มชาทดแทนกาแฟบ้าง จากข้อมูลที่ไปค้นหามา ก็พอทำให้ทราบว่าประโยชน์ของชามีอะไรบ้าง วิธีการชงชาทำอย่างไร แม้กระทั่งวิธีดื่มชาอย่างถูกต้อง

ตอนนี้เป็นภาคหนึ่งนะครับ จะเน้นที่ชาจีน ชาญี่ปุ่นนะครับ 


ประโยชน์ของชา

จากการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า ชามีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบต่าง ๆ อยู่หลาย
ชนิด เช่น โพลิฟินนอล แคททาซีน แทนนิน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี คอมเพล็ก สารฟลูออไรด์ มังกานีส โปแตสเซียม และสังกะสี เป็นต้น ชาเขียวจะมีปริมาณของสาร
ประกอบเหล่านั้นในปริมาณมาก สารเหล่านี้จะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย คือ
  • ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง ลดความเครียด
  • ช่วยย่อยอาหาร ละลายไขมัน
  • ช่วยดับกลิ่นปาก และป้องกันฟันผุ
  • ช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิด เช่น โรคท้องเสียที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
  • ใบชาช่วยดูดชับกลิ่น เช่น ใช้ดูดกลิ่นในตู้เย็น หรือในตู้เสื้อผ้าเป็นต้น
  • นอกจากนั้น ชาเขียวสามารถที่จะช่วยควบคุมระดับคลอเรสเตอรอล และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ตลอดจนช่วยชะลอความชราของร่างกายได้

ในการนำชามาชงดื่มเพื่อจะให้ได้รสชาติที่ดีนั้น จะต้องได้ความสมบูรณ์จากองค์ประกอบในส่วน
ต่าง ๆ คือ
  1. ใบชาหรือชาผง จะต้องเป็นชาใบ หรือชาผงคุณภาพดี
  2. น้ำต้มสุก จะต้องเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากสี กลิ่น รส และต้องต้มให้เดือดใหม่ ๆ

วิธีการชงชาที่ถูกต้อง
วิธีชงชาใบ หรือชาจีน มีขั้นตอนดังนี้
  1. อุ่นกาน้ำชาโดยใช้น้ำร้อนลวกภาชนะเพื่อให้กาน้ำชาและถ้วยชาอุ่นขึ้น และข้อดีอีกอย่างนึงคือช่วยฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นต่าง ๆ ในภาชนะ
  2. ใส่ใบชาลงในปริมาณที่พอเหมาะไม่เกิน 1 ใน 3 ของกาน้ำชา
  3. เทน้ำร้อนลงในกาน้ำชาให้เต็ม เพื่อกระตุ้นใบชาให้คลี่ออกและช่วยล้างใบชาให้สะอาด แล้วเท
  4. น้ำทิ้ง
  5. เทน้ำร้อนเดือดใหม่ ๆ ลงในกาน้ำชาอีกครั้ง ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที
  6. เทน้ำชาลงในถ้วยเสิร์ฟให้หมด ยกเสิร์ฟ
  7. เมื่อต้องการดื่มชาเพิ่มให้เติมน้ำเดือดลงไปอีกครั้ง ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วจึงเทน้ำชาเสิร์ฟใหม่อีกครั้ง ใบชาที่ใช้ชงแต่ละครั้งสามารถใช้ได้ประมาณ 3 - 7 ครั้ง ในครั้งต่อ ๆ ไปหลังจากเติมน้ำร้อนเพิ่มแล้วควรทิ้งไว้นานกว่า 3 นาที และนานไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้น้ำชาจืด

เรื่องปริมาณใบชานี่ หากใส่ใบชาในปริมาณที่เข้มพอดี ชาจะมีรสฝาดของแทนนิน
ซึ่งนั่นแหละครับ ความอร่อยสุดยอดอยู่ตรงนี้  ความฝาดนิดๆ ที่เคลือบปากและลิ้น ลงไปถึงลำคอ
จะทำให้เกิดความชุ่มคอ และหอมชื่นใจแบบสุดๆ

วิธีดื่มชาที่ถูกต้อง
1. ใช้ภาชนะแก้วชาขนาดเล็ก ปากกว้างซักหน่อย ใส่ชาให้พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป  ถ้าเป็นแก้วชาแบบกระเบื้อง แก้วชาจะร้อนมาก
2. เวลาจับ ใช้นิ้วโป้ง กับนิ้วกลาง หนีบตรงปากแก้ว  แล้วใช้นิ้วนางรองที่สันก้นแก้ว  ยกขึ้นมาดมก่อน เพื่อรับรู้กลิ่น แล้วจึงยกแก้วมาสัมผัสกับปาก โดยห้ามเป่าเด็ดขาด เพราะจะเป็นการไล่กลิ่นหอมของชาให้หายไป
3. ให้ดื่มชาโดยหายใจออก แล้วดูดลมเข้าปาก โดยลมช่วงแรกจะดูดเอากลิ่นของชาเข้าสู่ปากและปอ และให้เอียงแก้วให้น้ำชาโดนลมช่วงต่อมาดูดเข้ามากระจายในปาก
4. อมชาเอาไว้ ให้น้ำชากลัวไปทั้งปากและลิ้น สัมผัสรสชาติที่ได้ในปาก และเริ่มหายใจออกช้าๆ ตอนนี้จะได้กลิ่นของชาที่เข้าไปตอนแรก รวมกับที่มากับน้ำชาตอนหลัง

การดื่มชาแบบนี้ คุณจะแยกชาที่ดี กับชาที่ไม่ดีออกจากกันได้เลยทีเดียว
แม้ว่าคุณจะไม่ชำนาญเรื่องชาเลย ก็ยังคงสามารถรู้สึกได้...

ขอให้ดื่มชาอย่างมีความสุขนะครับ :)
ที่มา: http://kohsija.exteen.com/20070308/entry-1
http://took_dee.tarad.com/webboard_638245_6168_en?lang=en